**ประกันบำนาญ: แนวทางการวางแผนเกษียณที่สมดุลและยั่งยืน** การวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในยุคที่อายุขัยเฉลี่ยของคนไทยเพิ่มขึ้น แต่ระบบบำนาญของรัฐอาจไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในบั้นปลาย ดังนั้น **ประกันบำนาญ** จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยสร้างรายได้มั่นคงหลังเกษียณ บทความนี้จะอธิบายถึงประโยชน์ของประกันบำนาญ วิธีการคำนวณสัดส่วนที่เหมาะสมเมื่อผสมกับพอร์ตการลงทุนอื่น เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) รวมถึงวิเคราะห์ผลตอบแทนและแนวโน้มในอนาคต — **1. ประกันบำนาญคืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร?** ประกันบำนาญเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ผู้ถือกรมธรรม์จ่ายเบี้ยประกันเป็นระยะเวลาแน่นอน (เช่น 10, 15, 20 ปี) และได้รับเงินบำนาญเป็นรายเดือนหรือรายปีเมื่อถึงวัยเกษียณ (เช่น อายุ 55, 60, 65 ปี) **ประโยชน์ของประกันบำนาญ** รายได้มั่นคงหลังเกษียณ – ช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องในวัยที่ไม่มีรายได้ประจำ ลดความเสี่ยงจากการลงทุน– เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงมากกว่าผลตอบแทนสูง สิทธิประโยชน์ทางภาษี – เบี้ยประกันบำนาญสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาท (รวมกับประกันชีวิตอื่นๆ) ความยืดหยุ่น – บางกรมธรรม์มีตัวเลือกให้รับเงินก้อนตอนเกษียณหรือเลือกรับเป็นรายเดือน — **2. สัดส่วนที่เหมาะสมในพอร์ตเกษียณ** การจัดสรรพอร์ตการลงทุนเพื่อวัยเกษียณควรมีความสมดุลระหว่าง […]
Tag Archives: ประกันบำนาญ
เวลาพูดถึงประกันชีวิต คงเคยได้ยินบางคนบอกว่ามีเยอะแล้ว เข้าแบงค์ทีก็มีเพิ่มมาเล่มนึง เราเคยมานั่งคิดจริงๆ ไหมครับว่า ประกันชีวิตสำหรับตัวเราเองมีไว้ทำอะไร และมีเท่าไรเรียกว่าพอ วันนี้จะมาชวนคิดกันเรื่องนี้ครับ คนเราทำประกันชีวิตด้วยหลากหลายความต้องการ บ้างก็ทำเพื่อลดภาษี พยายามให้ได้ครบ 1 แสน พอดีแบบไม่ขาดไม่เกินพอส่งครบก็หาเติมอย่างนี้อยู่เรื่อยๆทุกปี อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งประโยชน์ทางภาษีที่เราได้จากการทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพตามเงื่อนไขที่ทางรัฐเปิดสิทธิให้ แต่เราเคยมาย้อนดูไหมครับว่าจริงๆเราทำประกันชีวิตเพราะต้องการความคุ้มครองจากประกันชีวิตจริงๆรึเปล่า ก่อนจะทำประกันชีวิตอยากให้ทุกคนลองพิจารณาจากคำถามเหล่านี้กับตัวเองก่อน ถ้าเราไม่อยู่ในวันนี้มีใครเดือดร้อนบ้าง หรือได้รับผลกระทบจากที่เราไม่สามารถหาเงินมาส่งเสียเลี้ยงดูเขาเหล่านั้นได้ หรือต้องชดใช้หนี้สินที่เราก่อไว้แทนเรา ประเมินมูลค่าออกมาเป็นตัวเงินจากการที่เราไม่อยู่ แล้วรายได้ขาดหายไปตามระยะเวลาที่เหลือถ้าเรายังทำงานได้ต่อ ทั้งสองคำถาม จะนำมาสู่การคำนวณว่าเราควรมีประกันชีวิตหรือค่าตัวเท่าไรในวันนี้และอนาคต ซึ่งอาจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งในสองข้อเป็นเกณฑ์หรือนำมารวมกันก็ได้ครับถ้าเรามีกำลังมากพอ เพราะ โดยปกติตัวเลขของข้อ 2 มักจะมากกว่าข้อ 1 โดยเฉพาะคนที่มีเวลาทำงานเหลืออยู่ยาวๆและรายได้สูงๆ เมื่อเราได้ตัวเลขที่ต้องการแล้ว ข้อสำคัญคือการนำตัวเลขดังกล่าวมาหักลบกับทรัพย์สินที่เราเตรียมไว้แล้ว ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเลือกคำนวณทุนประกันชีวิตแบบข้อ 1 ของผู้ชายวัย 43 ปี เป็นหัวหน้าครอบครัว ภาระค่าเทอมลูกที่ต้องดูแล จนจบปริญญาตรี ทั้งสองคน 2 ล้านบาท ภาระดูแลคุณพ่อคุณแม่จนอายุ 85 ปี 3 ล้านบาท ภาระผ่อนบ้าน สินเชื่อคงค้าง 3 ล้านบาท เงินกู้เพื่อการลงทุนในธุรกิจ […]