ประกันโรคร้ายแรง

ประกันโรคร้ายแรง เจอจ่ายแต่ไม่จบ คุ้มครองทุกระยะตลอดชีวิต
ประกันโรคร้ายแรง ทำไมต้องมี? และควรเลือกแบบไหนดี?
**ทำไมต้องมีประกันโรคร้ายแรง?**
โรคร้ายแรง (Critical Illness) เป็นโรคที่รักษายาก ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูง เช่น มะเร็ง หัวใจ เส้นเลือดในสมองตีบ หรือไตวายเรื้อรัง ซึ่งอาจส่งผลกระทบทั้งสุขภาพและฐานะทางการเงิน การมีประกันโรคร้ายแรงช่วยให้:
**ลดความเสี่ยงทางการเงิน** เพราะค่ารักษาพยาบาลอาจสูงถึงหลักล้าน
**ได้รับเงินก้อนทันที** เมื่อตรวจพบโรคตามเงื่อนไขกรมธรรม์
**มีเงินสำรอง** สำหรับค่าดูแลพิเศษ ค่ายา หรือรายได้ชดเชย
**โรคร้ายแรงแบ่งตามระดับความรุนแรงอย่างไร?**
ประกันโรคร้ายแรงมักแบ่งการจ่ายเงินตามความรุนแรงของโรค เช่น **ระยะเริ่มต้น (Early Stage), ระยะปานกลาง (Intermediate Stage), และระยะรุนแรง (Severe Stage)**
1. โรคหัวใจ
ระยะเริ่มต้น (จ่าย 10-30% ของทุนประกัน)
– ทำบอลลูนหัวใจ (Angioplasty)
– โรคหลอดเลือดหัวใจตีบแต่ยังไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
ระยะรุนแรง (จ่าย 100% ของทุนประกัน)
– ผ่าตัดบายพาสหัวใจ (CABG)
– หัวใจล้มเหลวรุนแรง
2. มะเร็ง
แบ่งเป็น 4 ระยะ โดยประกันบางแบบอาจจ่ายเงินตั้งแต่ระยะแรกๆ:
ระยะ 0-1 (Early Stage)
– มะเร็งในชั้นผิวหนังหรือเนื้อเยื่อเริ่มต้น (จ่ายบางส่วน)
ระยะ 2-3 (Intermediate Stage)
– มะเร็งลุกลามแต่ยังไม่แพร่กระจาย (จ่ายสูงขึ้น)
ระยะ 4 (Severe Stage)
– มะเร็งแพร่กระจาย (จ่ายเต็มทุนประกัน)
3. โรคหลอดเลือดสมอง
ระยะเริ่มต้น
– ตรวจพบภาวะเส้นเลือดตีบแต่ยังไม่แตกหรืออุดตัน
– ระยะรุนแรง
– เส้นเลือดสมองแตก/อุดตันจนเกิดอัมพาต
แบบประกันโรคร้ายแรงในไทยมีกี่ประเภท?
1. แบบจ่ายครั้งเดียวจบ (Single Payment)
– ลักษณะ : จ่ายเงินก้อนเมื่อพบโรคตามเงื่อนไข แต่กรมธรรม์สิ้นสุดทันที
– เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเงินก้อนใหญ่และไม่ต้องการความคุ้มครองต่อ
– ข้อดี: ได้เงินเต็มที่ในครั้งเดียว
– ข้อเสีย : เสี่ยงไม่ได้รับความคุ้มครองหากโรคกลับมาเป็นอีก
2. แแบบจ่ายแล้วยังคุ้มครองต่อ (Multi-Payment / Continued Coverage)
ลักษณะ : จ่ายเงินแบ่งตามระยะโรค และยังคุ้มครองต่อแม้เคยเคลมแล้ว
– เหมาะกับใคร: คนที่กังวลว่าโรคอาจกลับมาหรือลุกลาม
– ข้อดี: คุ้มครองยาวนาน อาจเคลมได้หลายครั้ง
– ข้อเสีย: เบี้ยประกันอาจสูงกว่าแบบจ่ายครั้งเดียว
ควรซื้อแบบไหนดี?
เลือกแบบจ่ายครั้งเดียวจบ ถ้า…
– ต้องการเงินก้อนใหญ่เพื่อรักษาหรือชดเชยรายได้
– ไม่กังวลว่าจะป่วยซ้ำ (เพราะอาจมีประกันสุขภาพอื่นเสริม)
เลือกแบบคุ้มครองต่อ ถ้า…
– มีประวัติครอบครัวเป็นโรคร้ายแรงซ้ำๆ
– ต้องการความมั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองแม้เคยเคลมไปแล้ว
**สรุป**
ประกันโรคร้ายแรงเป็นตัวช่วยสำคัญในการรับมือกับค่ารักษาที่สูง การเลือกแบบประกันควรพิจารณาจาก:
✅ **ความครอบคลุมของโรค** (ระยะเริ่มต้นถึงรุนแรง)
✅ **รูปแบบการจ่ายเงิน** (จบครั้งเดียว vs. คุ้มครองต่อ)
✅ **ความเสี่ยงส่วนตัว** (ประวัติสุขภาพ, โรคประจำตัว)
หากมีทุนทรัพย์เพียงพอ แนะนำให้ซื้อแบบ **Multi-Payment** เพื่อความคุ้มครองที่ยาวนาน แต่หากต้องการลดค่าใช้จ่าย อาจเลือกแบบ **Single Payment** และเสริมด้วยประกันสุขภาพทั่วไป
**หมายเหตุ**: ศึกษารายละเอียดกรมธรรม์ให้ดีก่อนซื้อ เพราะแต่ละบริษัทมีเงื่อนไขต่างกัน!
WERICH GROUP มีทางเลือกของแบบประกันโรคร้ายแรง ทั้งแบบเบี้ยคงที่ไม่ขึ้นตามอายุ และแบบปรับขึ้นตามอายุ ทั้งแบบเจอจ่ายจบและเจอจ่ายแล้วยังคุ้มครองต่อโดยไม่ต้องชำระเบี้ยต่อ เรายินดีให้คำปรึกษาสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://lin.ee/hBu28ld

หรือ www.werichmerich.com

ประกันโรคร้ายแรง
ประกันโรคร้ายแรง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *